ศึก FA CUP รอบที่ 4 จะเริ่มเตะกันตั้งแต่กลางดึกคืนนี้ไปจนถึงวันอังคาร ซึ่งมีหลายคู่ที่ได้ทีมประกบเรียบร้อยพร้อมกับการจับสลากล่วงหน้าในรอบที่ 5 ไปก่อนหน้านี้ แต่บางทีมยังต้องรอคู่ประกบ เพราะเกมการแข่งขันเลื่อนออกไปจากปัญหาผลพวงของโควิด-19
ฉะนั้นสัปดาห์นี้ท่านจะไม่เหงาอย่างแน่นอน เพราะเราได้รวบรวมและจัดอันดับเกมการแข่งขัน 5 คู่ ในศึก FA CUP รอบ 4 ที่น่าดูที่สุด มาให้ท่านได้เลือกชมและเชียร์กันแล้วด้านล่างนี้แล้ว
1. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับ ลิเวอร์พูล
ศึกแดงเดือดในถ้วย FA CUP อาจมองได้ว่ามาเจอกันเร็วไปหน่อย เพราะนี้ยังอยู่แค่รอบ 4 เท่านั้น โดยทั้ง 2 จะลงเตะกันในค่ำคืนวันอาทิตย์ ที่ 24 มกราคม เวลาเที่ยงคืน ที่บ้านของแมนยู อีกทั้งนี้จะเป็นการพบในกันศึกบอลถ้วย ต่อจากเกมยูโรป้าลีกเมื่อ 5 ปีก่อน
- ลูกทีมของโซลชา กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มขาขึ้นอย่างสุดๆ เพราะหากย้อนกลับไปช่วงต้นฤดูกาลฟอร์มบู่จนเก้าอี้ร้อน จากการพาทีมออกสตาร์ทย่ำแย่และจมอยู่ท้ายตาราง แต่ตอนนี้ทีมกระโดดขึ้นมารั้งจ่าฝูงเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับทิ้งห่างหงส์แดงเพื่อนรักไปไกลถึง 6 แต้มแล้ว
- ส่วนทีมเยือนอย่างลิเวอร์พูล เหมือนกับทีมที่ต้องเจอวิบากกรรมตลอดเวลา จากปัญหาผู้รักษาประตู จนมากองหลัง มากองกลาง และล่าสุดเป็นกองหน้าที่ปืนฝืดสนิทมา 4 นัดติด ซึ่งจะเห็นได้ว่าลูกทีมของคล็อปป์ฟอร์มตกและขาดความมั่นใจอย่างหนัก
- ถึงกระนั้น แดงเดือดก็ยังคงเป็นแดงเดือด เพราะต่อให้ใครจะผลงานเป็นอย่างไร ยามที่ 2 ทีมนี้มาเจอกันก็ต่างบุกใส่กันไฟแลบ แต่สุดท้ายยังเชื่อว่าการที่ทีมเยือนอย่างหงส์แดงฟอร์มตกอย่างหนัก จะส่งผลให้เกมนี้สนุกสูสีจนมีสิทธิ์เสมอได้ แต่หากชี้ฝั่งผู้ชนะน่าจะเป็นเจ้าบ้านมากกว่า
2. เซาแธมป์ตัน พบกับ อาร์เซน่อล
นี่เป็นการพบกับของทีมจากพรีเมียร์ลีกด้วยกัน ทำให้ผลพวงจากเกมนี้จะต้องมี 1 ทีม จากลีกสูงสุดต้องตกรอบไป แถมผลงานในลีกของทั้ง 2 ทีมยังใกล้เคียงกันมากๆ แต่จากสถิติและโชควาสนาของไอ้ปืนใหญ่ อาจทำให้นักบุญล่องใต้ต้องหวาดหวั่น กับดีกรีแชมป์รายการนี้ 14 สมัย โดยทั้ง 2 จะพบกันในเวลา 19.15 น. ตามเวลาประเทศไทย
- นักบุญล่องใต้ พึ่งลงเล่นรอบ 3 ไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ เพราะนักเตะชรูว์สบิวรี่ ติดโควิด-19 กว่าค่อนทีม ก่อนที่จะกลับมาลงเตะ และกลายเป็นทีมจากลีกวันที่พ่ายแพ้และตกรอบไปตามเชิง ส่วนผลงานในลีกปีนี้ของเซาแธมป์ตัน ถือว่าดีกว่าปีก่อนเล็กน้อย เพราะทำอันดับอยู่ในโซนครึ่งบน ของตารางมาตลอดแบบไม่ต้องกังวลกับการตกชั้น อีกทั้งยังเคยมีช่วงเวลาขึ้นไปรั้งจ่าฝูงเสียด้วย ทำให้ปีนี้มีลุ้นโควตายุโรปกับเขาเหมือนกัน ถ้านับจากนี้ยังรักษามาตรฐานไว้ได้
- ฟากทีมเยือนอย่างไอ้ปืนใหญ่ ในรอบที่ 3 ต้องออกแรงเหนื่อยกว่าจะชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ส่วนผลงานในลีกก่อนหน้านี้จัดว่าย่ำแย่จนลงไปรั้งโซนท้ายตาราง ซึ่งมีผลให้เก้าอี้ของอาร์เตต้าร้อนฉ่าสุดๆ กระทั่งเกมกับเชลซีที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ทำให้ทีมกลับมาทำผลงานได้ดีจนอันดับขยับมาอยู่กลางตาราง พร้อมกับโอกาสลุ้นโควตายุโรปอีกหนึ่งทีม
- เกมการแข่งขันนัดนี้ หากชั่งน้ำหนักจากฟอร์มและผลงานของทั้ง 2 ทีม นับว่าใกล้เคียงกัน แต่อย่างที่กล่าวไปในตอนแรกว่าด้วยเป็นเจ้าพ่อ FA CUP ของอาร์เซนัล คงเห็นทีว่าเซาแธมป์ตันจะต้องพ่ายแพ้และหลีกทางให้กับลูกทีมของอาร์เตต้าร์ ไม่ว่าจะใน 90 นาที ต่อเวลาพิเศษ หรือยิงจุดโทษ
3. มิลล์วอลล์ พบกับ บริสตอล ซิตี้
เกมคู่นี้จะลงเตะกันในวันเสาร์ เวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ณ สนามเดน สเตเดียม โดยในแง่ของชื่อชั้นอาจไม่สูงนัก เพราะเป็นทีมระดับกลางๆ ในเดอะแชมเปียนชิป แต่ในแง่ของความสูสีนั้นมีแน่นอน เพราะทั้ง 2 ทีม ศักยภาพใกล้เคียงกันมาก
- สิงห์ลอนดอน คือทีมระดับกลางตาราง ที่ตอนนี้รั้งอันดับที่ 16 ของตาราง ทำให้เป็นอีกขวบปีที่ลอยลำอยู่ในลีกรองแห่งนี้แบบไม่ลุ้นอะไร เพราะด้วยผลงานที่ชนะบ้าง เสมอบ้าง แพ้บ้าง ส่วนเส้นทางในถ้วยนี้ของรอบที่แล้ว ผ่านบอร์แฮม วู๊ด ทีมในลีกสมัครเล่น
- ฟากของบริสตอล ซิตี้ เป็นทีมระดับกลางค่อนไปทางด้านบน ของตาราง ซึ่งตอนนี้รั้งอันดับที่ 9 ของตาราง โดยเมื่อดูจากคะแนนนั้นยังพอมีหวังติดพื้นที่เพลย์ออฟ ถ้าทำผลงานได้สม่ำเสมอกว่านี้ ส่วนเส้นทางของถ้วยนี้ในรอบที่แล้ว ผ่านพอร์ตสมัธ ที่อยู่ในลีกวัน มาได้แบบหืดจับ
- การพบกับของทั้ง 2 ทีมนี้อย่างที่กล่าวไปว่าสูสีมาก หากดูจากสถิติด้วยแล้วก็ยิ่งเดายาก แต่ถ้าเจาะลึกลงไปถึงสถิติการเล่นในบ้านของสิงห์ลอนดอน จะพบว่าเป็นทีมที่เล่นในบ้านเพื่อให้คนอื่นมาเอาแต้ม ฉะนั้นเชื่อว่าถ้าผู้ชนะใน 90 นาที จะเป็นทางฝั่งของบริสตอล ซิตี้ มากกว่า
4. เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด พบกับ พลีมัธ อาไก
เกมคู่นี้จะลงเตะกันในวันเสาร์ เวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยเมื่อดูชื่อเจ้าบ้านกับทีมเยือน คงจะงงๆ ว่ามันน่าดูตรงไหน เพราะระดับชั้นต่างกัน แต่อย่าลืมนะครับว่านี้คือ FA CUP ทัวร์นาเมนต์ที่ได้ชื่อว่ามีการล้มยักษ์เป็นปกติ ซึ่งด้วยผลงานที่ไม่เอาอ่าวของเจ้าบ้าน แล้วต้องมาเจอกับทีมลีกรองที่ผลงานนี้ นี่จึงเป็นความน่าสนใจและมีสิทธิ์จะเป็นแมตช์ล้มยักษ์ได้
- ทับดาบคู่ คือทีมบ๊วยของตารางในเวลานี้ โดยชัยชนะที่รอคอยมาแสนนานเกินขึ้นในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จากจุดโทษ แต่ถึงระนั้นก็ยังมองว่านี่คือทีมเต็งที่จะตกชั้นอยู่ดี ส่วนผลงานในรอบที่แล้วออกไปเยือน กัปตันโจรสลัด บริสตรอล โรเวอร์ แล้วชนะมา 2-3 แต่ต้องบอกเลยว่านั่นเป็นชัยชนะที่ค่อนข้างหืดจับ
- สำเภามรกต คือทีมระดับกลางตารางในลีกวัน ซึ่งในปีนี้น่าจะลอยลำแบบไม่มีลุ้นอะไร โดยถือเป็นเรื่องปกติ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยขึ้นมาในลีกระดับสูงได้เลย ส่วนเส้นทางในถ้วยนี้ พวกเขาต้องพบกับงานหนักตั้งแต่รอบแรกๆ ด้วยการเจอกับทีมหัวตาราง แต่ก็ผ่านมาได้ทั้งหมด
- ถ้าดูกันตามชื่อชั้น แน่นอนว่าทัพดาบคู่เหนือกว่า แต่ถ้าเอาผลงานและฟอร์มการเล่น มันดูเหมือนจะสูสีประหนึ่งว่าอยู่ลีกเดียวกัน ทำให้เชื่อว่าเกมนี้มีสิทธิ์ออกเสมอได้ แต่ถ้ามีผู้ชนะ ยังเชื่อว่าเจ้าบ้านจะรอดไปได้อีกครั้ง แต่ถ้าเกิดวันนี้เจ้าบ้านเล่นไม่ดีเท่าที่ควร ก็เชื่อว่าเกมนี้มีโอกาสเป็นเกมล้มยักษ์สูงที่สุดในการจัดอันดับครั้งนี้
5. บอร์นมัธ พบกับ ครอว์ลีย์
เกมคู่นี้จะลงเตะกันในค่ำคืนวันอังคารที่ 27 มกราคม เวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยชื่อของเจ้าบ้านเรายังพอคุ้นหู เพราะพึ่งตกชั้นไป ตรงข้ามกับทีมเยือนที่น้อยคนที่จะรู้จัก เพราะพวกเขาโลดแล่นอยู่ในลีกล่างและไม่เคยขึ้นมาโชว์ตัวในเวทีระดับสูง
- เดอะเชอร์รี่ ตอนนี้ลงมาอยู่เดอะแชมเปียนชิปซึ่งผลงานก่อนหน้านี้ถึงขั้นขับเคี่ยวจ่าฝูงกับ นอริช ซิตี้ แต่ผลงานช่วงหลังตกหลุมพรางบ่อย จนอันดับรูดลงมาที่ 6 ซึ่งถ้าหากฟอร์มบู่ไม่เลิก ก็มีสิทธิ์โดนถีบกระเด็นออกจากพื้นที่เพลย์ออฟ ส่วนเส้นทางในถ้วยนี้ พวกเขาผ่านทีมรองบ่อนจากลีกวันมาแบบสบายๆ
- ทีมเยือน คือทีมระดับกลางตารางของลีกทู ซึ่งในปีนี้ผลงานดีพอที่จะอยู่ในลีกแห่งนี้ต่อไปในปีหน้า ส่วนเส้นทางในถ้วยนี้ เจอทีมเบาสลับหนัก ซึ่งรอบที่แล้วเจอกับลีดส์ ยูไนเต็ด ที่ใครเห็นก็ว่าตาย แต่ที่ไหนได้ ดันตบยูงทองตั้ง 3 ดอก เสียอย่างนั้น
- ด้วยความที่เจ้าบ้านผลงานไม่ดี แล้วทีมเยือนก็พึ่งล้มยักษ์มา ทำให้เกมนี้มีสิทธิ์เกิดการล้มยักษ์ขึ้นได้ ถ้าเดอะเชอร์รี่ยังทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานอย่างต่อเนื่องในเกมนี้
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับการจัดอันดับ 5 แมตช์ที่น่าชมในรอบนี้ ซึ่งมีทั้งเกมบิ๊กแมตช์แบบยักษ์ชนยักษ์ พร้อมกับเกมที่มีโอกาสล้มยักษ์แบบเป็นไปได้ ที่เชื่อว่าถ้าท่านได้รับชมคงจะบันเทิงสายตาไม่น้อย สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการชมฟุตบอลในช่วงสุดสัปดาห์นี้นะครับ